นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ คือ สิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรต้องมีติดกระเป๋าไว้ เพื่อใช้สำหรับฆ่าหรือหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค จึงทำให้ผู้ผลิตพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกมาวางจำหน่ายกันอย่างมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สเปรย์แอลกอฮอล์, เจลแอลกอฮอล์, หรือแอลกอฮอล์ชนิดน้ำ เป็นต้น และสิ่งที่เรามักจะได้ยินอยู่บ่อยๆ ก็คือ แอลกอฮอล์ 95 % กับ 70% ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนจะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดีกว่า บทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นถึงความแตกต่าง และสามารถเลือกใช้ให้เกิดความเหมาะสมมากที่สุด
1. รู้จักแอลกอฮอล์ประเภทต่างๆ
แอลกอฮอล์มีอยู่หลายประเภทโดยสามารถแยกได้ตามโครงสร้างทางเคมีต่างๆ ได้ดังนี้
- เมทานอล หรือ เมทิลแอลกอฮอล์(Methyl Alcohol) คือ ของเหลวใสที่สามารถระเหยได้ง่าย นิยมใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมสี เฟอร์นิเจอร์ ใช้เป็นสารตั้งต้นในอุตสาหกรรมพลาสติก รวมถึงเป็นเชื้อเพลิงได้อีกด้วย และถึงแม้ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ไม่ควรนำมาใช้กับร่างกายของมนุษย์ เพราะมีความเป็นพิษต่อร่างกายมากถึงมากที่สุด สามารถดูดซึมได้ทางผิวหนัง ลมหายใจ หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมากจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ อาจทำให้เกิดการคลื่นไส้ เวียนหัว ปวดท้อง กล้ามเนื้อกระตุก หายใจลำบาก หรือการมองเห็นผิดปกติจนอาจทำให้ตาบอดได้
- เอทานอล หรือ เอทิล แอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) คือ ของเหลวใส ไม่มีสี ละลายน้ำได้ดี ระเหยง่าย จุดเดือดต่ำ ติดไฟง่าย สามารถฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส แต่ Ethanol จะออกฤทธิ์ต่อไวรัสได้ดีกว่า Isopropanol และยังมีการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในยานยนต์ ใช้ในกระบวนการผลิตน้ำหอมอีกด้วย ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนทำลายพื้นผิว เป็นตัวทำละลายที่ดี มีราคาถูก ไม่เป็นอันตราย เหมาะสำหรับการฆ่าเชื้อบนผิวหนัง และทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์
- ไอโซโพรพานอล หรือ ไอโซโพรพิล แอลกอฮอล์ (Isopropyl Alcohol) คือ ของเหลวใส ไม่มีสี ระเหยง่าย จุดเดือดต่ำ ติดไฟง่ายคล้ายกับเอทานอล แต่ Isopropanol สามารถออกฤทธิ์ต่อแบคทีเรียได้ดีกว่า Ethanol เหมาะสำหรับใช้ฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หากนำมาใช้กับผิวหนัง มักจะทำให้ผิวแห้ง เกิดผื่นแพ้ เกิดการระคายเคือง หรือหากสัมผัสด้วยการสูดดม หายใจเข้าไป จะทำให้ระคายเยื่อบุจมูก และคอ ถ้าสัมผัสดวงตา จะทำให้เกิดการระคายเคืองที่เยื่อบุตา และเกิดแผลที่กระจกตา ได้
2. ความแตกต่างระหว่าง แอลกอฮอล์ 95 % กับ แอลกอฮอล์ 70%
2.1 แอลกอฮอล์ 70%
แอลกอฮอล์ 70% คือ ยาฆ่าเชื้อโรค น้ำสีฟ้าที่เรามักจะเห็นกันอยู่ในชุดยาสามัญประจำบ้าน มีขายตามร้านขายยาทั่วไป และต้องผ่านการรับรองจาก อย. ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรค ผู้ผลิตอาจผสมสารต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อให้มากขึ้น เช่น การเติม Chlorhexidine จะช่วยให้ออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น และยังปกป้องเชื้อโรคได้ยาวนานขึ้น สามารถฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ระเหยเร็ว แห้งง่าย ไม่เหนียวมือ เหมาะที่จะใช้เป็นแอลกอฮอล์ล้างมือ และบางยี่ห้อมีการเพิ่มส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เข้าไปเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอีกด้วย
2.2 แอลกอฮอล์ 95%
แอลกอฮอล์ 95% คือ สารละลายที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ 95 % และน้ำอีก 5 % เป็นแอลกอฮอล์ สรรพคุณในการเป็นตัวทำละลายในห้องปฏิบัติการเคมี ใช้เช็ดทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์เครื่องมือ ภาชนะต่างๆ หรือจะนำไปประยุกต์ใช้สำหรับฆ่าโรคและแมลงในสวนผลไม้ ใช้เช็ดกระจกจากคราบไขมัน นำมาเจือจางกับน้ำเพื่อใช้ทาบรรเทาอาการยุงกัด และด้วยความเข้มข้นที่มากเกินไปหากนำมาใช้เป็นแอลกอฮอล์ล้างมือก็จะทำให้ผิวแห้ง ลอก ประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคลดลง เพราะเกิดการระเหยเร็วจนไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้หมดนั่นเอง
3. การออกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ สรรพคุณในการฆ่าเชื้อโรค และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์แบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส จะสามารถออกฤทธิ์จากการที่แอลกอฮอล์จะเข้าไปทำให้เซลล์เกิดการคายน้ำ (strong dehydrating agent) ออกจากเซลล์ แล้วดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไป เพื่อสร้างความเสียหายต่อสารพันธุกรรม จนเกิดกระบวนการที่ทำให้เซลล์ถูกทำลาย เชื้อโรคต่างๆ หยุดการเจริญเติบโต หยุดการแพร่พันธุ์และตายลงในที่สุด โดยเฉพาะเชื้อโรคที่มีโครงสร้างไขมันห่อหุ้ม เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ละลายไขมันได้ดีมากนั่นเอง
4. เลือกแอลกอฮอล์แบบไหนดีจึงจะฆ่าเชื้อโรคได้มากที่สุด
ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อโรค มีการพัฒนาออกมาให้เลือกใช้กันหลายแบบ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้ตามความชอบของแต่ละคน แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญและเลือกให้ถูกต้องก็คือ ระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ ซึ่งหากต้องการใช้เพื่อฆ่าเชื้อโรคบริเวณผิวหนัง หรือวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องมีการสัมผัสอยู่เป็นประจำ ควรเลือกระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ 70% เนื่องจากไม่การระเหยเร็วเกินไป และมีปริมาณน้ำเพียงพอที่จุลินทรีย์จะดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไปทำลายเซลล์ได้ดีกว่า ในขณะที่แอลกอฮอล์ 95% จะเกิดการระเหยได้เร็วมาก และมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอที่จะดูดซึมเข้าไปในเซลล์ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำลายจุลินทรีย์หรือเชื้อโรคลดลง
หากถามว่าแอลกอฮอล์แบบไหนฆ่าเชื้อโรคได้มากที่สุด ก็คงต้องดูที่การนำมาใช้งานเป็นหลักเช่น หากคุณต้องการแอลกอฮอล์ที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคในชีวิตประจำวัน สำหรับทำความสะอาดผิว หรืออุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ แอลกอฮอล์ 70% คือ แอลกอฮอล์ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด แต่หากคุณต้องการใช้แอลกอฮอล์ สรรพคุณหลักเพื่อเป็นสารตั้งต้น หรือใช้เป็นตัวทำละลายในผลิตภัณฑ์ต่างๆ แอลกอฮอล์ 95% ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่มีความเหมาะสมมากกว่านั่นเอง สำหรับท่านที่สนใจผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในการป้องกันเชื้อโรคในรูปแบบต่างๆ บริษัท เพียว เซิร์ฟ คือตัวแทนจำหน่ายสินค้าคุณภาพ มาตรฐานสูง พร้อมบริการจัดส่งและติดตั้งโดยมืออาชีพ เรายินดีให้คำปรึกษาเพื่อให้คุณได้รับผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด